6 G เริ่มใช้เมื่อใด
6 G เริ่มใช้เมื่อใด ในขณะที่ 5G กำลังได้รับคำแนะนำ และนำไปใช้งานกันอย่างทั่วโลก ซึ่งบางพื้นที่ของบางประเทศก็ยังไม่ได้รับการครอบคลุมอย่างทั่วถึง แต่สถาบันวิจัยทั่วโลกก็ได้เริ่มมองการณ์ไกลของระบบ 5G และคาดว่าจะมีการพัฒนา 6G ขึ้นมาให้บริการ
และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานของแอปพลิเคชั่นที่มนุษย์ใช้งาน และเพื่อปรับปรุงระบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น เทคโนโลยีแบบไร้สาย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์เป็นอย่างมาก
และความก้าวหน้าของระบบไร้สายที่มีต่อระบบ 6G แน่นอนว่าความเร็วของมันจะน้อยกว่าค่าสูงสุดที่เป็นไปได้มาก และนี่คือเหตุผลสำคัญ ที่การทำงานในทิศทางนี้จะดำเนินไปการเป็นเวลาหลายปี ภายในปี 2570 มีการวางแผนที่จะรับรองจากเทคโนโลยีการส่งข้อมูลใหม่ เพื่อให้ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในโลก มีความเข้าใจว่าจะใช้การสนับสนุนในเทคโนโลยีของตนอย่างไร
สำหรับวันที่จะเปิดตัวจะเกิดขึ้น ในปี 2573 เมื่อ 6G เริ่มต้นขึ้น เป้าหมายนั่นก็ คือ การเปิดใช้งานเครือข่ายที่มีความสามารถบรอดแบนด์ระดับโลก และสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนในอนาคต สำหรับความคิดใหม่ ๆ และโอกาสที่จะขยายการปฏิวัติด้านการสื่อสารก็จะเริ่มขึ้นอย่างทันสมัย
และกำลังจะได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อเครือข่ายการเข้าถึงวิทยุ (RAN) ที่กระจายตัวมากขึ้น และความปรารถนาที่จะใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่เทราเฮิร์ตซ์ (THz) เพื่อเพิ่มความจุลดเวลาแฝง และปรับปรุงประสิทธิภาพการแบ่งปันคลื่นความถี่
ซึ่งมีรายงานว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด ในเครือข่าย 6G นี้ จะสามารถเข้าถึงด้วยความเร็วถึง 8000 Gbps แต่ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบเครือข่าย 5G ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ที่มีความเร็วสูงถึง 35 Gbps
นั่นคือ เครือข่าย 6G จะเป็นเครือข่ายใหม่ ที่เร็วกว่าเดิม ถึง 100 เท่า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า การถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงนี้ จะเปิดสถานการณ์ใหม่สำหรับการใช้อินเทอร์เน็ต และจะปฏิวัติวิธีต่อความต้องการใช้เทคโนโลยีของมนุษย์อย่างแน่นอน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ 6 G
6G คืออะไร
6G เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย รุ่นที่ 6 แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรฐานไว้อย่างชัดเจน แต่มีมาตราการว่า จะสร้างสถานะอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลาย และเชื่อถือได้ให้มากขึ้นในเครือข่ายเซลลูลาร์ทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเราจะเรียกมาตรฐานใหม่ที่กำลังจะพัฒนาขึ้นมานี้ว่า “ 6G” แต่มันไม่ใช่ระบบ 5G ที่เร็วกว่าเดิม หรือระบบ 5G ที่ปรับปรุงแล้ว เนื่องจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์แต่ละมาตรฐานมีความแตกต่างกันอย่างไร กล่องตัวรับ-ส่งสัญญาณ 6G ที่ให้บริการการสื่อสารไปยังอุปกรณ์อื่น จะไม่มีความคล้ายคลึงกันแน่นอน
กล่าวง่าย ๆ ว่า ข้อกำหนดที่ 6G ควรจะเป็นไปตามนั้น จะต้องให้ผู้ผลิตออกแบบชุดสื่อสารของผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ทำงานกับพารามิเตอร์เหล่านั้นได้ นี่เป็นเหตุผลเดียวกับที่ 5G กลายเป็นสิ่งที่ “ แตกต่าง” แทนที่จะถูกมองว่าเป็น 4G LTE เวอร์ชันปรับปรุง แต่มันไม่ใช่อย่างที่หลายคนเข้าใจ
การทำงานของ 6G
การวิจัยในปัจจุบันส่วนใหญ่เกี่ยวกับเทคโนโลยีไร้สาย รุ่นที่ 6 มุ่งเน้นไปที่การส่งข้อมูลผ่านความถี่สูงพิเศษเหนือช่วง 5G ในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ 5G สามารถวิ่งได้ถึง 100 GHz แต่โดยทั่วไปแล้ว 5G ไม่ได้วิ่งสูงกว่า 39 GHz สำหรับการใช้งานจริงในส่วนนี้
นักวิจัยเชื่อว่า พวกเขาจะสามารถส่งข้อมูลได้จริง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในช่วงหลายร้อย GHz หรือเทราเฮิร์ตซ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว หมายความว่า อนาคตจะสามารถส่งข้อมลูก หรือสื่อสาร และสตรีมได้เร็วกว่าที่เคยเป็นมาในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้
กล่าวอีกนัยหยึ่งของ 6G ก็คือ ยิ่งความถี่สูงขึ้นเท่าใด ยอดคลื่น และร่องในคลื่นก็จะยิ่งมีข้อมูลมากขึ้น ซึ่งหมายถึง การถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ 6G จะนำเครือข่ายที่ใช้งานได้จริงไปสู่ระดับแนวหน้า ปัจจุบันอุปกรณ์ 5G จะสื่อสารผ่านสัญญาณระหว่างโทรศัพท์แต่ละเครื่อง และสถานีฐาน หรือเสา เครือข่ายด้วยความกี่นี้จะช่วยให้อุปกรณ์ 6G แต่ละเครื่องเป็นตัวสนับสนุนสำหรับเครือข่ายข้อมูลโดยรวม ทำให้การครอบคลุมสามารถขยายไปไกลผ่านเครือข่ายของอุปกรณ์ 6G
และ 6G ยังมีความหน่วงแฝงที่ต่ำที่เป็นจุดสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีเวลาแฝงของข้อมูลต่ำกว่า 1 มิลลิวินาที ซึ่งความหน่วงแฝงที่ต่ำในทางทฤษฎีนี้ จะทำให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นทำงานได้อย่างเต็มที่จากระบบคลาวด์ และด้วยประการนี้ จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก
ทำให้สามารถใช้งานฟังก์ชันที่ต้องใช้พลังงานในการประมวลผลจำนวนมากได้ เช่น GPS แบบเรียลไทม์ หรือข้อมูลโฮโลแกรมในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น นาฬิกา หรือแว่นตา สิ่งที่จำเป็นในฮาร์ดแวร์ คือ การเชื่อมต่อ 6G และแบตเตอรี่ ตัวอย่างเช่น เราสามารถสวมแว่นตา VR ที่มีความสามารถรองรับ 6G โดยการประมวลผลส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนคอมพิวเตอร์ระยะไกล และข้อมูลที่ป้อนแบบเรียลไทม์ไปยังแว่นตา VR
6G จะส่งผลต่อชีวิตประจำวันเราอย่างไร
6G สามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้ หรือแทบจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เพราะอยู่ในช่วงที่กำลังจะพัฒนา และสิ่งเหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับกาลเวลาทั้งนั้น ซึ่งเหตุผลเหล่านี้จะคล้ายกับการที่ 5G ได้เห็นกระแสโฆษณามากมาย
แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากขั้นตอนการทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน พวกเราหลายคนมีอุปกรณ์ 5G อยู่ในกระเป๋าของเราแล้ว และมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการใช้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า 6G จะไม่เปลี่ยนชีวิตของเรา แต่เทคโนโลยีนี้จะต้องได้รับอนุญาต และพัฒนาให้เติบโตมากขึ้น
ประเทศที่กำลังมีการใช้ 6G ในโครงการต่าง ๆ มีประเทศอะไรบ้าง
1. จีน
2. ญี่ปุ่น
3. สหรัฐอเมริกา
จะเห็นว่าบนมนุษย์บนโลกสามารถคิดค้นสิ่งต่าง ๆ หรือสามารถพัฒนาระบบต่าง ๆ ขึ้นได้อย่างมากมาย และจะเกิดผลดี หรือผลเสียอย่างไรนั้น ต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสินในอนาคต
Credit https://ufa6699.com