Inbound Marketing คืออะไร

Inbound Marketing คืออะไร Inbound Marketing คืออะไร โดย Inbound Marketing หรือ การตลาดขาเข้า เป็นวิธีการที่ดึงดูดผู้ใช้ (เทียบกับการขัดจังหวะ เช่นการตลาดขาออก) ด้วยประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการความท้าทาย และความสนใจของพวกเขา กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การตลาดอีเมล การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) และการตลาดเนื้อหา ล้วนทำงานเป็นกลยุทธ์การตลาดขาเข้า ในอีกความหมายของ Inbound Marketing หมายถึง กิจกรรมการตลาดใด ๆ ที่ทำให้ผู้คนสนใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับการตลาดขาออกนอกจากนี้ ยังสามารถสรุปได้ว่า เป็นกิจกรรมประเภทใดก็ได้ ที่ได้รับความสนใจเมื่อเทียบกับกิจกรรมที่มีการจ่ายให้ การตลาดขาเข้ามักเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากกว่าสิ่งที่เสนอ หรือเปิดเผยต่อผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือต้องการ นี่คือเหตุผลที่บางครั้งคุณอาจได้ยินการตลาดขาเข้าที่เรียกว่า “การตลาดแบบอนุญาต” (คำที่กำหนดโดยผู้แต่ง Seth Godin) การตลาดขาเข้าเริ่มต้นอย่างไร ? พร้อมกับถามว่า “การตลาดขาเข้าคืออะไร” คุณอาจสงสัยว่า รูปแบบการตลาดใหม่นี้เป็นอย่างไร ความจริงแล้ว การตลาดขาเข้ามีมานานหลายปีแล้ว และหลาย ๆ บริษัทก็ใช้วิธีนี้ แต่คำว่า “การตลาดขาเข้า” ไม่ได้บัญญัติไว้จนถึงปี 2548…

การอัปเดต Google Maps สู่การนำทางอีกระดับ

การอัปเดต Google Maps สู่การนำทางอีกระดับ การอัปเดต Google Maps สู่การนำทางอีกระดับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ Google ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตทั้งหมดเกี่ยวกับ Google Maps ในปี 2021 และกล่าวได้ว่า นี่น่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับแอป ซึ่งการอัปเดตทั้งหมดที่มุ่งหน้าไปยัง Maps นั้นใช้ AI ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณค้นหาเส้นทางรอบ ๆ ภายในอาคารเท่านั้น แต่ยังค้นหาเส้นทางที่อาจประหยัดน้ำมันมากกว่าเส้นทางอื่น ๆ อีกด้วย ขณะนี้ Google Maps จะให้ข้อมูลสภาพอากาศ และคุณภาพอากาศ สำหรับจุดหมายปลายทางของคุณ และแสดงรายละเอียดเพิ่มเติม ที่จะช่วยในการจัดเตรียมรถรับส่งตามริมทาง ซึ่งเป็นการยาก ที่จะบอกว่าคุณลักษณะใด ที่เป็นส่วนเสริมที่สำคัญที่สุด แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก คือ ฟังก์ชัน Live View ที่เข้ามาของ Google Maps Live View ได้ให้คำแนะนำทีละขั้นตอน สำหรับผู้คนนอกบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้ Google กำลังย้ายไปอยู่ในอาคารด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้ Google Maps จะสามารถใช้ Live…

Facebook Stories คืออะไร

Facebook Stories คืออะไร Facebook Stories คืออะไร ปัจจุบันภูมิทัศน์ของโซเซียลมีเดียมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เราจะรู้เทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับแฮชแท็ก และหัวข้อ หรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาแทนที่การสนทนา และการพูดคุณอย่างใกล้ชิด ในทำนองเดียวกันคุณลักษณะใหม่ ๆ ของโซเซีบลมีเดียในไม่ช้านี้ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่คนยุคสมัยใหม่ขาดไม่ได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ Facebook ซึ่งได้เปิดตัวในปี 2559 และได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับนักการตลาดบนโซเชียล ที่ต้องการดำเนินการทุกอย่างเกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงล่าสุด และการนำคุณลักษณะใหม่ล่าสุดมาใช้ในกลยุทธ์การตลาดของคุณ ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะใช้ Facebook Stories เพื่อการตลาด เราจะอธิบายเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ว่าคืออะไร ทำไมคุณจึงควรใช้ และวิธีใช้เรื่องราวของ Facebook สำหรับธุรกิจสามารถทำได้อย่างไร Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม Facebook stories แท้จริงแล้วคืออะไร คือ เรื่องราวของ Facebook เป็นฟีเจอร์ที่ให้คุณแชร์เนื้อหา (ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรือแม้แต่ภาพเคลื่อนไหว) ที่หายไปหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องราวใน Facebook…

ประโยชน์จาก Social Commerce

ประโยชน์จาก Social Commerce ประโยชน์จาก Social Commerce ซึ่งปัจจุบันโซเชียลคอมเมิร์ซ มีความสำคัญอย่างน่าเหลือเชื่อ และตรงไปตรงมามาก เมื่อแบรนด์ขายสินค้า หรือบริการบนโซเชียลมีเดีย แทนที่จะพึ่งพาไซต์อีคอมเมิร์ซแบบสแตนด์อะโลนเพียงอย่างเดียว แต่โซเชียลคอมเมิร์ซ ยังรวมถึงการมีคนคลิกลิงก์จากโซเชียลมีเดีย และยังสามารถนำพาพวกเขาเหล่านั้นไปยังไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญมาก ในการใช้ประโยชน์จากโซเชียลคอมเมิร์ซ เป็นเพราะโซเชียลมีเดียเป็นที่ที่ผู้คนใช้เวลาส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะมีลูกค้าที่ใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ของคุณมากแค่ไหนก็ตาม เมื่อเทียบกับผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 1 พันล้านคนบน Instagram โซเชียลคอมเมิร์ซยังใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม และความชอบทางสังคมของลูกค้าได้อีกด้วย Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม เหตุใดการใช้ประโยชน์จากโซเชียลคอมเมิร์ซจึงมีความสำคัญ ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วการเข้าชมบนโซเชียลมีเดีย มักจะเกินปริมาณการใช้งานบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใดก็ตามที่คุณใช้ ไซต์โซเชียลมีเดีย ยังคงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เพื่อขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ใช้มากขึ้น ลองนึกถึง Facebook เมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนที่คุณจะสามารถโพสต์ อัปเดตสถานะ และรูปภาพได้เท่านั้น และเปรียบเทียบสิ่งนั้นกับเรื่องราวของ Instagram ในปัจจุบัน ซึ่งคุณสามารถปัดขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ได้ในไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งโซเชียลคอมเมิร์ซยังใช้ AI ในแบบที่อีคอมเมิร์ซทำไม่ได้ ตัวอย่างการตลาดของ Influencer ที่เป็นที่นิยม คือ เมื่อข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อที่มีศักยภาพ…

อัปเดตGoogle Core Web Vitals

อัปเดตGoogle Core Web Vitals อัปเดตGoogle Core Web Vitals โดย Google ประกาศว่า Core Web Vitals กำลังเป็นสัญญาณสำหรับการจัดอันดับของผลการค้นหาในเดือนพฤษภาคม 2021 ขณะนี้สัญญาณประสบการณ์หน้าเว็บ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ จัดอันดับการค้นหา โดย Google Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ซึ่งสัญญาณประสบการณ์ของเพจเป็นการผสมผสานระหว่าง Core Web Vitals และสัญญาณอื่น ๆ เข้าด้วยกัน สัญญาณการค้นหาสำหรับประสบการณ์หน้าเว็บ ได้แก่ การโหลด การโต้ตอบ ความเสถียรของภาพ ความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ การท่องเว็บอย่างปลอดภัย HTTPS และไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างหน้ารบกวน โดย Core Web Vitals หมายถึง การโหลดการโต้ตอบ และความแข็งแกร่งของภาพ ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ สามารถวัดประสบการณ์ และการรับรู้ของผู้ใช้ เมื่อเข้าชมหน้าเว็บ Google ใช้สัญญาณบ่งชี้เหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเลือกหน้าที่มีประโยชน์ที่สุดเพื่อจัดอันดับให้กับผู้ใช้ Google…

ทำไม Bitcoins ถึงมีมูลค่า

ทำไม Bitcoins ถึงมีมูลค่า ทำไม Bitcoins ถึงมีมูลค่า หลายคนคงได้ยินกันมาแล้วว่า Bitcoins คือ สกุลเงินดิจิตอลที่ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างมีอิสระ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาของระบบคอมพิวเตอร์ และไม่มีใครเป็นเจ้าของ และเชื่อได้เลยว่า หลายคนต่างมีข้อสงสัยว่า แล้วทำไม Bitcoins ถึงมีมูลค่าขึ้นมา แล้วมีโอกาสถูกโกงได้หรือไม่ และมีวิธีป้องกันอย่างไร Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม Bitcoins มีมูลค่าได้อย่างไร ? โดยสามารถแยกออกเป็นประเด็นสำคัญ ๆ ได้ดังนี้ 1) เป็นสกุลเงินที่มีมูลค่า เนื่องจากสามารถใช้เป็นที่เก็บมูลค่า และหน่วยแลกเปลี่ยนได้ โดยสกุลเงินที่ประสบความสำเร็จนี้ มีคุณลักษณะหลัก 6 ประการ ได้แก่ ความขาดแคลน ความแตกแยก ยูทิลิตี้ ความสามารถในการขนส่ง ความทนทาน และความสามารถในการปลอมแปลง 2) สกุลเงินดิจิทัล bitcoin มีมูลค่า เนื่องจากสามารถรองรับทั้ง 6 ลักษณะนี้ได้เป็นอย่างดีแม้ว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือ สถานะเป็นหน่วยการแลกเปลี่ยน เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับว่าเป็นการชำระเงิน ซึ่งยูทิลิตี้ และความสามารถในการถ่ายโอนของ…

DeFi คืออะไร

DeFi คืออะไร DeFi คืออะไร โดย DeFi หรือ Decentralized Finance ซึ่งเป็นการเงินแบบกระจายอำนาจ ซึ่งหมายถึง ระบบที่ซอฟต์แวร์ที่เขียนบนบล็อคเชน ทำให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย หรือผู้ให้กู้ และผู้ยืม สามารถโต้ตอบแบบเพียร์ทูเพียร์ หรือกับคนกลางที่ใช้ซอฟต์แวร์อย่างเคร่งครัด แทนที่จะเป็นบริษัท หรือสถาบันที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี และโปรโตคอลหลายอย่าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการกระจายอำนาจ ตัวอย่างเช่น ระบบกระจายอำนาจ อาจประกอบด้วย การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีโอเพนซอร์สบล็อคเชน และซอฟต์แวร์ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ สัญญาอัจฉริยะที่กำหนดเงื่อนไขข้อตกลงโดยอัตโนมัติระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย หรือผู้ให้กู้ และผู้กู้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้เป็นไปได้ ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยี หรือแพลตฟอร์มใดก็ตาม ซึ่งระบบ DeFi ได้รับการออกแบบมาเพื่อลบตัวกลางระหว่างบุคคลที่ทำธุรกรรม ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายโทเค็นและเงินที่ถูกล็อกไว้ในสัญญาอัจฉริยะในระบบนิเวศของมันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง DeFi เป็นอุตสาหกรรมที่เริ่มต้นซึ่งโครงสร้างพื้นฐานยังคงถูกสร้างขึ้น กฎระเบียบและการกำกับดูแล DeFi มีน้อยหรือขาดไป อย่างไรก็ตาม ในอนาคต DeFi คาดว่าจะเข้ารับช่วงต่อและแทนที่ระบบการเงินสมัยใหม่ Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ส่วนประกอบของ DeFi เป็นอย่างไร…

iPhone 11 Pro โลโก้แบรนด์ผิดตำแหน่ง ราคาเฉียดแสน

iPhone 11 Pro โลโก้แบรนด์ผิดตำแหน่ง ราคาเฉียดแสน iPhone 11 Pro โลโก้แบรนด์ผิดตำแหน่ง ราคาเฉียดแสน โดยพบว่า iPhone 11 Pro วาง โลโก้ Apple ด้านหลังผิด ถูกประมูลในราคาเกือบแสน ซึ่งเป็นเครื่องหลุด QC ที่โลโก้แบรนด์ที่ด้านหลังวางผิดตำแหน่ง  ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีตำแหน่งแบรนด์ไม่ถูกต้อง และถูกกล่าวหาว่า ขายในราคาสูงถึง 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 84,890 บาท เนื่องจากมีโอกาสเกิดขึ้นแบบน้เพียง 1 ใน 100 ล้าน เท่านั้น ตามรายงานของ AppleInsider ทวีตโดย Internal Archive บน Twitter ได้แชร์ภาพด้านหลังของรุ่น iPhone 11 Pro ในภาพสามารถมองเห็นโทรศัพท์มือถือได้หลายมุม สิ่งนี้นำเสนอรูปลักษณ์ที่ชัดเจนของ iPhone โดยเน้นโลโก้แบรนด์ ที่พิมพ์ผิดที่ด้านหลัง เมื่อมองไปที่จุดบกพร่อง จะเห็นได้ชัดเจนว่ามุมของโลโก้ และตำแหน่งที่แท้จริงไม่ถูกต้อง เมื่อเทียบกับโลโก้ทางการที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งสามารถพบได้ที่ด้านหลังของ iPhone…

เทคโนโลยีเพิ่มความเป็นส่วนตัว (PETs) คืออะไร

เทคโนโลยีเพิ่มความเป็นส่วนตัว (PETs) คืออะไร เทคโนโลยีเพิ่มความเป็นส่วนตัว (PETs) คืออะไร แม้ว่ากฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเช่น GDPR ในสหภาพยุโรป และ CCPA ในแคลิฟอร์เนีย จะมีขึ้นเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว แต่ความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคมักถูกบุกรุก โดยแฮกเกอร์บริษัท และรัฐบาล  ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นธุรกิจ แชร์ข้อมูลของผู้บริโภคกับบริษัทของบุคคลที่ 3 เพื่อให้ข้อมมูลเชิงลึกกำไร ปรับปรุงการให้บริการของตน หรือเพื่อสร้างรายได้จากสินทรัพย์ข้อมูลของพวกเขา ซึ่งเทคโนโลยีเพิ่มความเป็นส่วนตัว (PET) สามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะยังคงเป็นส่วนตัวอยู่ และไม่ถูกเผยแพร่ ตัวอย่างเช่น บริษัท AI และที่ปรึกษา AI มักประสบปัญหานี้ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ข้อมูลไคลเอ็นต์เพื่อสร้างโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง พวกเขาต้องการวิธีที่ปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลไคลเอนต์ และ PET Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม ความหมายของเทคโนโลยีเพิ่มความเป็นส่วนตัว (PETs) คืออะไร ? PET ย่อมาจากคำว่า Privacy-enhancing technologies เป็นเทคโนโลยีที่หลากหลาย (โซลูชันฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์) ที่ออกแบบมาเพื่อดึงคุณค่าของข้อมูลออกมาเพื่อปลดปล่อยศักยภาพทางการค้า วิทยาศาสต ร์และสังคมอย่างเต็มที่ โดยไม่เสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว…

เทคโนโลยี RPA คืออะไร

เทคโนโลยี RPA คืออะไร เทคโนโลยี RPA คืออะไร ซอฟต์แวร์ Robotic process automation (RPA) หรือระบบอัตโนมัติของกระบวนการหุ่นยนต์ คือ การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) และความสามารถในการเรียนรู้ของเครื่อง เพื่อจัดการงานปริมาณมากที่ทำซ้ำได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มนุษย์ต้องดำเนินการ งานเหล่านี้อาจรวมถึงการสืบค้นการคำนวณ และการดูแลบันทึก และธุรกรรมต่าง ๆ Credit https://ufa6699.com อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม โดยเทคโนโลยี RPA ประกอบด้วย ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ ( บอท ) ที่สามารถเลียนแบบคนงานที่เป็นมนุษย์ได้ ซึ่งบอท RPA สามารถล็อกอินเข้าสู่แอปพลิเคชัน ป้อนข้อมูลคำนวณ และทำงานให้เสร็จสิ้น จากนั้นออกจากระบบ ซึ่งปัจจุบันผู้ปฏิบัติแบ่งเทคโนโลยี RPA ออกเป็น 3 ประเภทกว้าง ๆ ได้แก่ Probots ( โพรบอท ) Knowbots ( โนว์บอท ) และ Chatbots ( แชทบอท )…